ข่าว1

พิษงูมีค่าทางยาอย่างไร?

วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ใช้พิษงูเพื่อกำจัดอาวุธลับของพวกมันการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเมื่อพิษของงูเข้าถึงเซลล์เนื้องอก มันสามารถทำลายเยื่อหุ้มเซลล์และทำลายโครงสร้างการสืบพันธุ์ของมันได้ ดังนั้นจึงบรรลุวัตถุประสงค์ในการยับยั้งนักวิทยาศาสตร์ใช้ไซโตทอกซินที่แยกได้จากพิษงูเห่า โดยพิจารณาจากเซลล์เนื้องอกในสัตว์ทดลองที่มีประสิทธิภาพ เช่น เซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองโยชิดะ เซลล์มะเร็งตับในช่องท้องของหนู เป็นต้น ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในการปฏิบัติทางคลินิกในต่างประเทศได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไซโตทอกซินสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งของมนุษย์ได้ แต่ไม่สามารถระบุเป้าหมายของการโจมตีได้บางครั้งเซลล์ปกติในร่างกายมนุษย์ก็จะได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งไม่คาดว่าจะได้ผล แต่นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการรักษามะเร็งในอนาคต

พิษงูมีคุณค่าทางยาสูงการศึกษาทางเภสัชวิทยาได้พิสูจน์ว่าพิษงูมีองค์ประกอบทางเภสัชวิทยา เช่น สารกระตุ้นการแข็งตัวของเลือด ละลายลิ่มเลือด สารต้านมะเร็ง และยาแก้ปวดสามารถป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบ, แต่ยังรักษา obliterans vasculitis, โรคหลอดเลือดหัวใจ, หลอดเลือดแดงหลาย, กล้ามเนื้อกระตุกของหลอดเลือดแดง, หลอดเลือดจอประสาทตา, หลอดเลือดดำอุดตันและโรคอื่น ๆ ;พิษงูเพื่อบรรเทาอาการของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายก็มีผลเช่นกัน โดยเฉพาะฤทธิ์แก้ปวด ทำให้ทั่วโลกให้ความสนใจยาแก้พิษต่างๆ ที่ทำจากพิษงูได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการรักษาโรคงูกัดหลายชนิด

ในช่วงปลายยุคปลดปล่อย นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนบางคนยังได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการรักษามะเร็งด้วยพิษงูในหมู่พวกเขา มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีนใช้พิษของงูพิษอักคิสโตรดอนที่ผลิตใน Shedao ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และใช้วิธีการฉีดเข้าใต้ผิวหนังแบบฝังเข็มเพื่อพิสูจน์ว่ามันมีผลบางอย่างต่อมะเร็งกระเพาะอาหารวิธีการใช้ยาของต่างประเทศจะใช้การฉีดยารักษา


เวลาโพสต์: เม.ย.-02-2565